หญิงขับ BMW ซิ่ง 207 ชนแม่ลูกดับ 3 ราย ไม่สนคนตาย สนแต่แมว เผยแล้วหายไปไหน

          ที่เกิดเหตุพบศพ 3 ราย คือ

          - นายกฤตเมธ อายุ 16 ปี  นักเรียนชาย ม.4 ถูกชนอยู่ร่างบนถนนเชิงสะพาน
          - ด.ญ.บุณยานุช อายุ 14 ปี นักเรียน ม.2 ถูกชนกระเด็นตกจากสะพานข้ามรางรถไฟ
          - นางเย็นจิตร อายุ 52 ปี คุณแม่  ถูกชนกระเด็นตกจากสะพานข้ามรางรถไฟ
          ในจุดเกิดเหตุ ห่างจากศพแรก 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนท้ายอย่างแรง จนรถอยู่ในสภาพหักงอ ส่วนรถคู่กรณี คือรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW จอดสนิทอยู่บนถนนคู่ขนาน โดยหันหน้าส่วนทางกับรถขาออก ห่างจากรถจักรยานยนต์เกือบ 100 เมตร อยู่ในสภาพตั้งแต่กันชนไปถึงล้อด้านหน้าขวา พังยับเยิน นอกจากนี้ ล้อหลังด้านขวายังพับหักจากอุปกรณ์ส่วนยึดล้ออีกด้วย ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวไม่พบในที่เกิดเหตุแล้ว

          เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในรถ พบสมุดใบคู่มือจดทะเบียนประจำรถอยู่หลายเล่ม และยังพบกระเป๋าเงินตกอยู่ภายในรถ ตรวจสอบพบว่าบัตรประจำประชาชนและบัตรขับขี่ ระบุชื่อ น.ส.ภารดา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ชาวบ้านเล่านาทีเจอคนขับ ไม่สนคนตาย แต่บอกให้ช่วยตามหาแมว ก่อนเดินหลบหนีหายไม่ดูศพ

          สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังเต้นแอโรบิคอยู่ที่ลานหน้าบ้านริมถนนคู่ขนาน ใกล้เชิงสะพาน และได้เสียงดังโครมสนั่นกลบเสียงดนตรี ทุกคนหันไปเห็นคล้ายคนกระเด็นปลิวตกจากสะพานลงมากระแทกพื้น จึงวิ่งออกไปดูก็พบว่าที่กระเด็นมานั้นก็คือแม่และลูกสาว ส่วนลูกชายถูกชนอยู่บนถนนเชิงสะพาน จึงแจ้งให้ทางตำรวจได้มาตรวจสอบดังกล่าว

          ชาวบ้านอีกรายให้ข้อมูลว่า บ้านตนเองอยู่ฝั่งตรงข้าม ขณะที่นั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงดังโครม จึงหันไปมองตามต้นเสียง ก็พบรถยนต์เก๋งหมุนเคว้งจากบนถนนสายหลัก ชนเข้ากับเกาะกั้นทางข้าม ไปจอดนิ่งบนถนนคู่ขนาน ตนจึงวิ่งข้ามถนนมาเพื่อจะได้ช่วยเหลือ เพราะตอนแรกคิดว่ารถเสียหลักเอง โดยไม่คิดว่าชนรถคนอื่นมา

          เมื่อมาถึงก็พบหญิงสาว อายุไม่มาก เปิดประตูลงมาจากรถ ตนก็ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ โดยหญิงคนขับร้องขอให้ช่วยหาแมวให้หน่อย มันตกใจวิ่งออกจากรถ ตนเองก็ช่วยหาจนเจอ พบอยู่ใต้ท้องรถ และหญิงสาวนั้นก็หยิบมือถือมาโทร. หาใครไม่ทราบ พร้อมบอกว่า เดี๋ยวให้แฟนมารับ ประกอบตอนนั้นตนเริ่มเห็นบริเวณสะพานมาคนส่งเสียงดัง จึงเดินไปดูและหันไปที่หญิงสาวอีกที ก็พบว่าเดินอุ้มแมวหายไปในความมืดแล้ว
          เบื้องต้น ตำรวจพบว่า รถจักรยานยนต์สามคนแม่และลูกอีก 2 คน กำลังขับขี่กลับจากเรียนพิเศษเพื่อจะกลับบ้าน ที่ ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร จนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสะพานข้ามรางรถไฟ และก่อนจะลงสะพานพบว่าเป็นทางโค้งขวา สันนิษฐานว่า รถยนต์เก๋งน่าจะมาด้วยความเร็ว แล้วควบคุมรถไม่อยู่ หรืออาจไม่ทันสังเกตเห็น  หรืออาจจะเล่นอยู่กับแมว จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะนำกล้องหน้ารถไปตรวจสอบอีกครั้ง และจะออกหมายเรียก น.ส.ภารดา มาตรวจสอบว่าเป็นบุคคลเดียวที่ขับรถในวันเกิดเหตุหรือไม่

คนขับมอบตัวกลางดึก พ่อเจ้าของรถแจงสาเหตุเจ้าตัวหลบจากจุดรถชนเงียบ ๆ

          ต่อมา วันที่ 28 พฤศจิกายน หลังคืนเกิดเหตุ 1 วัน น.ส.จิรันธนิน อายุ 30 ปี มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร  ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงได้มาเก็บร่องรอยนิ้วมือคนขับรถเก๋ง BMW เพื่อจะนำมาเปรียบเทียบ และจะนัด น.ส.จิรันธนิน มาสอบปากคำอีกครั้งในก่อนเที่ยงของวันนี้

          ด้านนายดำ ชาวบ้าน เปิดเผยว่า รถเก๋ง BMW คันที่เกิดเหตุ เป็นของ น.ส.ภารดา ลูกสาวของตน แต่ น.ส.ภารดา ไม่ได้เป็นคนขับ เพราะช่วงนั้นมีงานศพของแม่ยายของตนที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ตำบลนาทุ่ง อ.เมืองชุมพร และ น.ส.ภารดา ยังอยู่ในงานศพยาย ซึ่ง น.ส.จิรันธนิน เพื่อนสาวคนสนิทของน.ส.ภารดา ที่เดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ได้ขอขับรถ BMW คันดังกล่าวไปอาบน้ำที่บ้านพักของตนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยขับไปคนเดียว ซึ่งยังไม่ทันถึงบ้าน ก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน  
          นายดำกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.จิรันธนิน ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่หลบไปอยู่ในที่มืด เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย น.ส.จิรันธนิน ไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนละแวกนั้นหรือไม่ และหากอยู่ตรงนั้นหวั่นจะเกิดอันตราย เพราะมีคนจำนวนมาก จึงหลบอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะโทรศัพท์มาที่ตนให้ไปรับ และพาไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ชุมพร และพนักงานสอบสวน ได้รับเรื่อง และเก็บผลตรวจเลือดพร้อมเป่าตรวจหาแอลกอฮอล์ว่าเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

          พ.ต.อ. ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า จากการตรวจลายนิ้วมือในรถ พบว่าตรงกับ น.ส.จิรันธนิน ประกอบกับพยานแวดล้อมพบว่า น.ส.ภารดา เจ้าของรถ อยู่ที่งานศพยายที่ตำบลนาทุ่งจริง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.จินันธนิน ฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถทำให้ทรัพย์ผู้อื่นเสียหาย และข้อหาหลบหนีไม่ให้ความช่วยเหลือ

ตำรวจสอบเข้ม 5 ชม. ตรวจเลือดพบแอลกอฮอล์ ขณะชนซิ่ง 207 กม./ชม.

          มีรายงานว่า สำหรับ น.ส.จิรันธนิน ที่มามอบตัวแสดงตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ใช้เวลาสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนนำตัวส่งศาล มีญาติไปรอประกันตัวอยู่ที่ศาลจังหวัดชุมพร และได้รับการประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท

          นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย น.ส.จิรันธนิน 2 ครั้ง วัดได้ปริมาณ 29 และ 27 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้หลักฐานในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.จิรันธนิน พบว่า น.ส.จิรันธนิน ได้ถ่ายภาพรถไว้ พบความเร็วรถ 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ในช่วงเวลาเดียวกับที่รถชนจากภาพในกล้องหน้ารถ) โดยน.ส.จิรันธนิน ใช้มือถือถ่ายไว้ขณะขับรถไปด้วย (ขับรถมือเดียว)
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว